บทเรียนที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำประกาศและมาตรฐานการปฏิบัติงานบริการสุขภาพที่ไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งเปิดเผย เข้าถึงได้ง่าย และบังคับใช้ได้จริงในต่างประเทศ ว่าด้วย "ลักษณะ 6 ในพระราชบัญญัติสิทธิพลเมือง ค.ศ.1964 ของสหรัฐอเมริกา - Title VI of the Civil Rights Act of 1964"

ลักษณะ 6 (Title VI) นี้เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายหลักที่วางรากฐานเรื่องการยืนยันสิทธิ (affirmative action) และการไม่เลือกปฏิบัติในสหรัฐอเมริกามาอย่างยาวนาน โดยกำหนดถึงการห้ามการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเชื้อชาติ สีผิว หรือสัญชาติ ในการบริการสาธารณะโดยองค์กรที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลระดับมลรัฐ (federal funding) เช่น โรงพยาบาล คลินิก ตัวแทน Medicaid/Medicare ศูนย์ฟื้นฟูสุราและยาเสพติด บ้านพักฟื้น (nursing homes) ศูนย์เด็กเล็ก เป็นต้น และได้ระบุถึงการเลือกปฏิบัติที่ผิดกฎหมายไว้อย่างชัดเจนว่าประกอบด้วย 4 รูปแบบหลักได้แก่

• การปฏิเสธการให้บริการ การจ่ายเงินสนับสนุน หรือการใช้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการบริการสุขภาพ
• การให้บริการ การจ่ายเงินสนับสนุน หรือการใช้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการบริการสุขภาพ ต่อผู้ที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ สีผิว หรือสัญชาติ แตกต่างไปจากกลุ่มอื่น
• การแยกบุคคลออกมาให้บริการ จ่ายเงินสนับสนุน หรือใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ต่างหากจากวิธีการปกติ
• การไม่สามารถจัดเตรียมขั้นตอน หรือวิธีการที่จะทำให้ผู้ที่มีข้อจำกัดทางภาษา (อังกฤษ) สามารถเข้าถึงการบริการหรือสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่

ในกรณีที่เกิดการละเมิด ผู้ถูกละเมิดหรือผู้ที่พบเห็นการละเมิดสามารถยื่นฟ้องไปยังสำนักงานสิทธิพลเมืองของ U.S. Department of Health and Human Services ได้ภายใน 180 วัน นับแต่ที่เกิดการละเมิดขึ้น ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้ช่วยให้ชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ สามารถเข้าถึงการบริการสุขภาพและการศึกษาทางการแพทย์ได้มากขึ้นและนำไปสู่ความเท่าเทียมทางสุขภาพได้ โดยมีปัจจัยแห่งความสำเร็จที่สำคัญ คือ

1. การที่รัฐบาลมลรัฐกำกับติดตามการปฏิบัติตามกฎหมายแล้วนำผลที่เกิดขึ้นมาพิจารณางบประมาณสนับสนุน ซึ่งส่งผลให้เกิดแรงกดดันและแรงจูงใจในการทำตามกฎหมาย

2. การเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมืองของภาคประชาสังคมที่ทำให้เกิดการผลักดันและสร้างความสนใจต่อการบังคับใช้กฎหมายนี้อย่างต่อเนื่อง

3. การลดกำแพงภาษาและสร้างบุคลากรที่มีความเข้าใจความแตกต่างทางเชื้อชาติ

อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้กฎหมายนี้ยังเผชิญความท้าทายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางผิวสีและเชื้อชาติที่ยังดำรงอยู่ กระแสคัดค้านการยืนยันสิทธิของกลุ่มผู้มีความหลากหลาย หรือแม้แต่การที่บุคลากรจำนวนมาก ยังขาดความเข้าใจและไม่ได้รับการฝึกอบรมให้มีสมรรถนะที่เอื้อต่อการทำงานกับกลุ่มผู้มีความหลากหลาย