Whānau Ora เป็นแนวทางการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่เสริมพลังชุมชนชาวเมารีให้เป็นผู้นําในการติดตามและประเมินบริการด้านสุขภาพของตนเอง โดยโครงการนี้มุ่งเน้นไปที่ความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัวและการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างแข็งขัน เพื่อให้แน่ใจว่าการบริการต่าง ๆ สามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะของกลุ่มประชากรชาวเมารีได้คล้ายการผลักดันให้ชุมชน และประชากรชาวเมารีร่วมเป็นเจ้าของในการจัดบริการสุขภาพ การบริการสุขภาพที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะกลุ่ม และสุขภาพที่ดีขึ้นของครอบครัวชาวเมารี โดยปัจจัยแห่งความสำเร็จของโครงการนี้คือ
1) การติดตามและประเมินผลการบริการสุขภาพโดยมีชุมชนเป็นฐาน
2) การประสานความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างชาวเมารีกับหน่วยงานภาครัฐ
3) เครื่องมือการติดตามและประเมินผลที่ได้รับการออกแบบร่วมกันระหว่างรัฐกับผู้นำชนเผ่าให้มีความสอดคล้องกับวัฒนธรรมของชุมชน
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่ยังดำรงอยู่ คือ งบประมาณและทรัพยากรที่จำกัดทำให้การขยายผลโครงการในวงกว้างเป็นไปอย่างล่าช้า การผสานโครงการนี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบบริการสุขภาพทั้งหมด ความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพระหว่างชาวเมารีกับผู้ที่ไม่ใช่ชาวเมารีที่ยังดำรงอยู่ แม้โครงการนี้จะประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว
หากย้อนมองกลับมายังประเทศไทย ที่แม้กระทั่งคำว่า “ชนเผ่าพื้นเมือง” ไม่ได้รับการยอมรับจากฝ่ายนิติบัญญัติแล้วนั้น จากการจัดกิจกรรมรับฟังความคิดเห็น และจัดทำข้อเสนอนโยบายเชิงสุขภาพแบบไม่เลือกปฏิบัติ (ส.ค. - ก.ย. ที่ผ่านมา)พบอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงบริการสุขภาพที่ถูกกำหนดจากส่วนกลาง ทั้งเรื่องการสื่อสารซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ หากผู้รับบริการมิใช่ผู้ใช้ภาษาไทยกลางเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร ขณะที่หน่วยบริการเองยังขาดความพร้อมในการดูแลกลุ่มผู้มีความต้องการพิเศษ รวมทั้งการเข้าไม่ถึงข้อมูลด้านสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพของตน และอีกประเด็นสำคัญคือ ยังไม่มีหน่วยงานสนับสนุนในการผลักดันให้ “ชุมชน” ได้มีตัวตนหรือร่วมจัดการดูแลระบบสุขภาพในพื้นที่ของตนเอง บทเรียนจากประเทศนิวซีแลนด์ ที่ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดบริการสุขภาพให้กลุ่มชนเผ่าพื้นเมืองจึงเป็นอีกแนวทางที่ รัฐไทยถึงเวลาที่จะต้องพิจารณา