(เมื่อไหร่ไม่รู้... เพราะ กกต.ยังไม่รับรองใครสักคน หลังเลือกตั้งผ่านมา 20 วัน)
เป็นเวลากว่า 3 ปี ที่เครือข่ายประชาชนขจัดการเลือกปฏิบัติ ได้มีความพยายามเสนอร่างพระราชบัญญัติขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลฯ ผ่านกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ โดยมีผู้เข้าชื่อ 11,790 ราย ร่วมลงนามเสนอให้ประเทศไทยมีกฎหมายลักษณะนี้ เพื่อเป็นการคุ้มครองปกป้องคนทุกคน ให้ปลอดพ้นจากการถูกเลือกปฏิบัติ
แม้กระบวนการเข้าชื่อเสนอกฎหมายจะผ่านมาจนถึงการเปิดรับฟังความคิดเห็นทั่วไปเป็นที่เรียบร้อย แต่จนแล้วจนรอด (ร่าง)กฎหมายฉบับนี้ ก็ถูกตีความว่า “เกี่ยวข้องกับการเงิน” ประธานรัฐสภาจึงนำส่งร่างที่ประชาชนร่วมกันจัดทำขึ้นมากับมือ ไปยังนายกรัฐมนตรีนามประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อลงนามให้คำรับรอง แม้พิสูจน์แล้วด้วยตัวเลข สถิติ ที่ไม่เคยโกหกใคร ว่าตลอด 8 ปี ในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่มีร่างกฎหมายใดที่ประชาชนอยากเห็น จัดทำ นำเสนอ จะได้รับความเห็นชอบจากผู้มีอำนาจเพียงคนเดียวคนนั้น (หลายร่างฯถูกปล่อยคว้างไม่แยแส)
เมื่อล่วงเลยสู่วาระยุบสภาประกาศการเลือกตั้ง ผลเป็นดังที่ปรากฏ เครือข่ายประชาชนขจัดการเลือกปฏิบัติ จึงได้มีหนังสือทวงถามถึงสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถึง “สถานะ” ของร่างกฎหมายที่พวกเราเสนอ แม้มากมายข้อความตอบกลับจะเปื้อนด้วยหมึกดำ แต่มันก็พอจะสรุปใจความสำคัญได้ว่า
1. การยุบสภาฯ “ไม่” ทำให้สถานะของ ร่างพระราชบัญญัติขจัดการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลฯ ตกตามไปด้วย ... ร่างกฎหมายนี้ยังอยู่ในกระบวนการ
2. ในเมื่อนายกชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สิ้นสุดวาระไปแล้ว ไม่ได้ลงนามให้คำรับรอง จึงจำเป็นต้อง “รอ” นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เข้ามาพิจารณา และต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นทั่วไปอีกครั้ง ทั้งนี้ หากนายกฯ รับรองแล้วจะส่งให้ประธานรัฐสภาบรรจุวาระการประชุม เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรได้มีการพิจารณาต่อไป
ท้ายที่สุดนี้ เครือข่ายประชาชนขจัดการเลือกปฏิบัติ จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และติดตามในทุกร่างกฎหมายเกี่ยวข้อง ที่ภาคส่วนต่าง ๆ รับปาก และมีความพยายามนำเสนอด้วย และเพื่อการขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้า อย่างปราศจากการตีตรา และเลือกปฏิบัติ ในโอกาสนี้ เราขอเรียกร้องให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับรองผลเลือกตั้ง การจัดตั้งรัฐบาล ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา และ “ตรงเวลา”
เพราะทุกวินาทีที่ผ่านไป มีใครหลายคนกำลังถูกเลือกปฏิบัติ