บทความ
ภาระการพิสูจน์ตกอยู่กับผู้ถูกกล่าวหา (shift the burden of proof)

ภาระการพิสูจน์ตกอยู่กับผู้ถูกกล่าวหา(shift the burden of proof)

: หนึ่งในสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ขจัดการเลือกปฏิบัติฯ ที่ยังค้างคาในสถานการณ์ยุบสภาของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา

ในประเทศอังกฤษ มีการบังคับใช้ “พระราชบัญญัติว่าด้วยความเสมอภาค” หรือ “Equality Act 2010” ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี พ.ศ.2553 โดยมีสาระสำคัญคือ การบัญญัติห้ามการเลือกปฏิบัติทั้งทางตรง (direct discrimination) และการเลือกปฏิบัติทางอ้อม (indirect discrimination) กฎหมายนี้ยังกินความถึง ห้ามการล่วงละเมิด และห้ามการทำให้บุคคลต้องตกเป็นเหยื่อ ควบคู่ไปกับการกำหนดห้ามผู้ใดออกคำสั่ง หรือชักชวนให้บุคคลใดกระทำการเลือกปฏิบัติต่อผู้อื่น ( เช่น ประกาศแบนคนบางกลุ่มห้ามใช้บริการทางสังคมบางประเภท, ชักชวนให้งดปฏิสัมพันธ์หรืองดร่วมกิจกรรมสำหรับคนบางกลุ่มที่มีความแตกต่างจากตน)

นอกจากนี้ ผู้เสียหายจากการถูกเลือกปฏิบัติ นอกจากมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมายแล้ว ยังสามารถเข้าถึงกลไกการชดเชยเยียวยา (ส่วนใหญ่ผู้เสียหายจะได้รับการชดเชยเยียวยาเป็นตัวเงิน) ผ่านกระบวนการทางศาลได้ โดย “ภาระการพิสูจน์ตกอยู่กับผู้ถูกกล่าวหา (shift the burden of proof)”

กล่าวคือสาระสำคัญในข้อนี้นั้น แตกต่างจากระบบ “ร้องทุกข์กล่าวโทษ” ของประเทศไทยอย่างชัดเจน เพราะปัจจุบัน กระบวนการทางศาลล้วนผลักภาระให้กับผู้ร้อง ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง

เพราะหลายครั้ง ความเป็นธรรมมักตกหล่นบนชั้นศาล เมื่อผู้เสียหายไม่เหลือเรี่ยวแรงในการต้องรับผิดชอบทั้งเวลา และการหาข้อพิสูจน์ ซึ่งทุกอย่างล้วนต้องใช้ต้นทุน แม้จะน่าเสียดายที่ร่างกฎหมายฉบับนี้มีอันต้อง “ตกไป” หรือ จำเป็นต้องไปเริ่มต้นใหม่ แต่สาระสำคัญดังที่กล่าวมา จะไม่หายไป และนับจากนี้ไป เครือข่ายประชาชนขจัดการเลือกปฏิบัติ จะระดมรายมือชื่อเพื่อเสนอให้ประเทศไทยได้มี “กฎหมายขจัดการเลือกปฏิบัติ” อีกครั้ง ไม่ว่ารัฐบาลสมัยหน้านี้ จะมีนายกรัฐมนตรีชื่ออะไรก็ตาม ขอเชิญชวนทุกคนมาติดตามและจับตาอย่างใกล้ชิด

รู้จักเราเพิ่มเติม
ร่วมบอกเล่าประสบการณ์การถูกเลือกปฏิบัติ
  • ร่วมบอกเล่าประสบการณ์ / เรื่องราวที่คุณเคยเจอหรือพบเห็น เพื่อให้เรานำเสนอต่อสาธารณะ
  • หากเรื่องราวของท่านได้รับการนำเสนอ จะได้รับการติดต่อมอบหนังสือขอบคุณ และติดตามการช่วยเหลือ
บรรยายเรื่องราว เหตุการณ์ โดยย่อ
ผู้แจ้งเบาะแส
หมายเลขโทรศัพท์
แจ้งเบาะแส
หรือร้องเรียนผ่าน Crisis Response System (CRS) ที่ สวัสดีปกป้อง